
ถ้าเงิ นเดือน 18,000 บาท ในหนึ่งเดือน ทำงาน 22 วัน วันละวันละ 8 ชั่ วโมง
บวกเวลาเดินทางไป-กลับ 2 ชั่ วโมง รวมๆแล้วคุณใช้เวลา 10 ชั่ วโมงต่อวัน
เท่ากับทำงานเดือนละ 220 ชั่ วโมงจะมีค่าแรงคิดเป็นชั่ วโมงละประมาณ 81.81 บาท
หรือตีเป็นตัวเลขกลมๆ 80บาท/ชั่ วโมง ถ้ากินกาแฟแก้วละ 160 บาท นั่นเท่ากับแลกเวลา
ในชีวิตไป 2 ชั่ วโมง เพื่อกาแฟแก้วนั้น ถ้ากินบุฟเฟ่ร้านหรูบนห้างมื้อละ 400 บาทนั่น
เท่ากับเวลาในชีวิต 5 ชั่ วโมงที่เสียไป เพื่อความอิ่มเพียงหนึ่งมื้อ ถ้าซื้อโทรศัพท์เครื่องละ 40,000 บาท
นั่นคือต้องแลกเวลาในชีวิต ไป 500 ชั่ วโมง เพื่อมือถือเครื่องนั้น ยิ่งถ้าค่าแรงแค่วันละ 300 แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เพราะกาแฟแก้วละ 160 จะต้องใช้เวลาในชีวิตไปถึง 4 ชั่ วโมง อายุเฉลี่ยของคนเราอยู่ที่ 70 ปี
หรือประมาณ 613,200 ชั่ วโมง ถ้านอนวันละ 8 ชั่ วโมง เราจะเหลือเวลาในชีวิต ที่รู้สึกตัวเวลาที่ตื่นนอน
อยู่ประมาณ 408,800 ชั่ วโมง แค่เวลาในการนอนก็หมดไป 1 ใน 3 ของชีวิตแล้ว
แล้วตอนตื่นนอน ยังจะต้องถูกนำไปใช้ ไปแลกกับอาหารราคาแพง สิ่งของฟุ่มเฟือย
เพื่อแค่เติมเต็มกิเลสเพียงความสุขชั่ วครู่ ชั่ วคราว หรือแค่เพื่อแค่ต้องการ
เป็นที่ยอมรับในสังคมแต่ไม่ใช่เรื่องผิด หรือถูกหรอก อยู่ที่ความพอใจของแต่ละคนแต่
ประเด็นคือ ถ้าซื้อให้น้อยลง กินให้ประหยัดลง เวลาใช้ไปเพื่อแลกกับการทำงาน
เก็บเงิ นมาแล้ว นำไปใช้จ่ายในสิ่งที่มีประโยชน์ ในสิ่งที่เพิ่มมูลค่าให้ในอนาคตได้ไม่ดีกว่าหรอ
หลายคนเวลาที่เ งินเดือนออก ได้เงิ นมาปุ๊ป ก็เอาไปซื้อของที่อย ากได้ทันที
เรื่องเก็บออม หรือการลงทุน เอาไว้ทีหลัง ขอให้ได้ใช้เงิ นก่อนซื้อความสุข ความสบายก่อนเสมอ
นิสัยเหล่านี้แหละ ที่ทำให้หลายๆคน ตั้งตัวไม่ได้สักที ยิ่งได้มาเยอะยิ่งจ่ายไปเยอะ
สำหรับ ”คนจน” สร้างแต่หนี้สินมองไปทางไหน ก็เจอแต่เจ้าหนี้
สำหรับ”คนรวย”จะรีบสร้างธุรกิจ มีกิจการเป็นของตัวเองใช้เงิ นต่อยอด
สำหรับ”คนจน” จะซื้อของแพงของที่อย ากได้ก่อน เรื่องเก็บเ งินเอาไว้ทีหลัง
สำหรับ”คนรวย”เขาจะซื้อของแพงๆ ก็ต่อเมื่อเขารวย และมีเ งินเหลือมากพอ
คนรวยมองหาโอกาส ที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต มีเ งินเหลือเฟือค่อยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
คนจนรายได้ก็ยังมีเท่าเดิม แต่รายจ่ายเพิ่มมากขึ้นทุกวัน บนความพย า ย ามเท่าเดิม
บนความเหนื่อยเหมือนเดิม บนการทำงานวันละ 8 ชั่ วโมง ในคุณคนเดิม
คิดก่อนซื้อดีกว่ามั้ย…? มีเงิ นมากหรือน้อย ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ
ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ใช่เชื่อมั่น ในกระเป๋าแบรนเนมรถหรู
ที่ต้องก้มหน้าก้มตาผ่อน จงเป็นคนที่มีเงิ นเก็บ สามล้านในธนาคาร
แต่ใช้กระเป๋าใบละสามร้อย อย่าเป็นคนที่มีเ งินสามร้อย ในบัญชีธนาคาร
แต่ใช้กระเป๋าใบละสามล้าน
ที่มา : bitcoretech