
งานทุกวันนี้ก็ไม่ได้หากันง่ายๆ และหลายคนเลย ถือคติ ‘ไม่เลือกงานไม่ย ากจน’
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้น หลายคนที่รู้สึกลำบากใจ โดยเฉพาะเรื่องของเงิน
ที่แบบว่าทำไม๊…ทำไม เงินเดือนเรามันน้อยนิดจัง ทั้งที่จบป.ตรีมา เหมือนกัน
ปัญหามันก็ไม่ได้เกิดที่เงินเดือน เป็นหลักหรอกบางครั้ง ก็มาจากวิธีคิดของเรานี่แหละ
ที่เราไปยึดติด เพียงเปลือกมากไป และเงินเดือนเพียงหลักพันทำไงอ่ะ
จึงจะมีชีวิตดี๊ดีเหมือนคนอื่นเขานะ
1.ถึงจะออกนอกห้องบ่อยๆ
มันก็ไม่ได้แปลว่าเราเอง จะไม่มีเงินเก็บ จริงอยู่ว่าออกไปนอกบ้าน
นอกห้อง ก็เท่ากับว่า เราพร้อมจะจ่ายตังค์แล้ว อย่าเหนียวกับตัวเอง
ไปหน่อยเลยน่า หากวันไหนไม่มีตังค์ ไม่จำเป็น
ต้องออกไปใช้เงินมากก็ได้หรอก หากิจกรร มง่ายๆ
เช่นออกไปวิ่ง,ออกไปเดินเล่น,ออกไปปั่นจักรย าน
เที่ยวเล่นอย่าติดนิสัย อยู่ในห้องบ่อยๆออกไปทำอะไรข้างนอกบ้าง
กาย จิตใจ จะได้แจ่มใสตื่นตัวอยู่เสมอ
2.แม้ของทุกอย่างที่มีอยู่มันจะไม่แพงไม่หรู
แต่ว่ามันก็ครบครันและที่พักก็มีการเดินทางก็ไม่ลำบากมากได้เข้าสังคมตามโอกาสที่ควร
และได้เพื่อนร่วมงานที่ดี วันหยุดก็มีมาก เจ็บป่วยก็มีค่ารักษาฯลฯ
สิ่งรอบตัวเรา มีครบมากเพียงนี้แล้ว มันก็ไม่จำเป็นมากนักหรอก
ที่จะต้องดิ้นรนให้เกินฐานะ พอใจกับสิ่งที่มี แล้วจะพบความสุขที่แท้จริง
3.สร้างมิตรภาพกับคนรอบตัว
เพราะความสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ใครก็ตาม
ที่อยู่ใกล้ๆเรา และนอกจากเราจะได้รับการแบ่งปันของกิน ของใช้อาหาร
โอกาสดีๆ และอันอื่นๆในย าม ที่เราเดือดร้อนขึ้น มาเช่นจู่ๆ ก็ไม่สบายหนัก
พวกเขาอาจช่วยเรา ผ่อนหนักเป็นเบา ช่วยดูแลเรา มันก็ปฏิเสธไม่ได้หรอก
ว่าความสัมพันธ์ มันมาพร้อมกับผลประโยชน์หรือเปล่า แต่เราเองก็เลือกได้ว่า
จะบาลานซ์ให้เรื่องไหน มาเป็นสิ่งแรก หากคุณเลือกผลประโยชน์นำหน้า
คุณเองอาจจะหาความจริงใจไม่ได้เลย (เชื่อเถอะว่ารวยเพื่อนมันดีกว่ารวยเ งินเชื่อสิ!)
4.โชคดีแล้วที่มีงาน มีเงิ นเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้
หากคุณกำลังท้อรู้สึกว่า งานที่ทำมันด้อยค่ากระนั้น คุณลองมองในมุมกลับว่า
มันดีแค่ไหนแล้ว ที่มีงานทำ เพราะบางคนเขา ยังไม่มีโอกาสที่ดีแบบเราเลยนะ
ฉะนั้นเราโชคดีกว่าใครอีกมากมายนะรู้มั้ย!
5.ให้รางวัลตัวเองให้ตัวเองได้พอชื่นใจ
ชอบพอที่จะซื้ออะไรให้กับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องอด แต่จงตั้งเงื่อนไข
อะไรให้กับตัวเองเกี่ยวกับงานเช่นส่งงานให้ทันกำหนดการทำยอดได้ตามเป้า
หากสิ่งที่คิดไว้สำเร็จจริงนอกจากจะได้แรงจูงใจสำหรับการทำงาน
และมันยังเป็นการเบรคตัวเองไม่ให้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นโดยง่ายอีกด้วยนะ
6.อย่าจำกัดสกิลที่ตัวเองมี
เราเองก็อย่าไปคิดว่า เรามีความสามารถเท่านี้ และทำงานแค่นี้
ฉะนั้นแล้วคุณต้องเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเอง โดยการอัพสกิล
อย่างการเก็บเ งิน ไปสอบวัดระดับภาษาให้ผ่าน เพื่อนำผลสอบนั้น
ไปยื่นปรับเงิ นเดือน หรือไม่ก็หารายได้เสริมจากทักษะที่ตัวเองถนัด
7.อาหารมื้อหลัก
ก็คือทานแบบถูก หรือฟรีก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอร่อยมาก ขอให้เน้นอิ่มไว้
เช่นอาหารที่บ้าน อาหารในโรงอาหารที่ทำงาน เพราะว่าคุณเอง
ก็จะได้มีเงิ นเก็บขึ้นไปอีกทำอะไรก็ได้ แต่ก็อย่าลืมคำนึง
ถึงสุขภาพเอาไว้ด้วยและอย่าทานของที่ไม่มีประโยชน์
8.ที่อยู่อาศัย
ประหยัดได้ยิ่งดี เพราะหลายคนต้องหักเงิ นเดือนครึ่งหนึ่งเป็นค่าเช่าที่พัก
และหากคุณอยู่บ้านหรือที่ทำงานคุณให้ที่พักฟรีคุณเองไม่ต้องอายคนอื่นเลยว่า
มันจะเป็นการเกาะใครกินคุณควรมาโฟกัสที่การเก็บเงิ นดีกว่าเพราะยิ่งเราจ่ายให้ค่าที่พัก
ได้น้อยแค่ไหนก็มีโอกาสเป็นนายตัวเองได้ไวเพราะเราประหยัดและมีเ งินเหลือไว้ใช้
9.อย่าบ่นไป
ถ้าต้องเดินทางด้วยความลำบาก เมื่อคิดแล้วว่า วิธีใดก็ปลอดภัยเหมือนกัน
ให้มองหาการเดินทางวิธีที่ประหยัดเข้าไว้ เช่นเดินจากที่พัก ไปออฟฟิศที่ใกล้ๆ
ขึ้นรถโดยสารประจำทาง ขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงาน จังหวัดใกล้ๆก็ได้
และคุณเองก็ไม่จำเป็น ต้องใช้วิธีสะดวกสบายมาก ถ้าสุดท้ายแล้ว
ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ในส่วนของพาหนะตั้งมากมาย
รองจากค่าที่พักนั่นเอง
10.โอกาสทางสังคมไม่จำเป็นต้องแพงเสมอ
เพราะการประหยัดนั้น ไม่ได้ให้อดมื้อกินมื้อ ไม่ได้หมายถึง
งดเข้าสังคมเพราะการเข้าสังคม มันก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น
ในการทำงาน เพราะจะทำให้เราเข้าใจเพื่อนร่วมงาน
ทำงานได้ลื่นไหล ไม่จริงเสมอไป ว่ามันจะต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่แพง
มันคือค่าใช้จ่าย ที่แลกกับมิตรภาพ และประสิทธิภาพ
สำหรับทำงานให้ดีขึ้นและเราก็เลือก ได้ว่าจะเข้าสังคมแบบใด
ถึงจะเหมาะกับเรา เอาที่คุณสบายใจ และไม่สร้างความขัดแย้งก็พอแล้ว