Home ข้อคิด 12 สัญญาณความรักคุณไกล้ถึงทางตันแล้วละ

12 สัญญาณความรักคุณไกล้ถึงทางตันแล้วละ

1 หงุดหงิดแฟนแม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

เมื่อก่อนแฟนทำอะไรก็ ดู ‘ดีงาม’ ไปซะหมด ท่วงท่าในการเดิน การเขียนหนังสือการขยับนิ้วมือไปมาของเขา

แค่เห็นก็ท รม านใจสุดๆ อะไรจะหล่อจะเท่ขนาดนี้แต่ปัจจุบัน แค่ได้ยินเสี ยงลมหายใจฟืดฟาดของเขาก็หงุดหงิดได้ อีก

ไปให้พ้นๆ สายตาได้ไหม ไม่สิ ไปให้พ้นจากชีวิตน่าจะดีกว่า( แฟนได้ยินรีบไปผูกคอใต้ต้นถั่วงอกรัวๆ )

แค่เขาเข้ามาอยู่ใกล้ๆ เธอก็แทบจะสะอิดสะเอียน ผดผื่นคันจนต้องบอกให้เขา‘ไปให้ไกลๆ’ เป็นไปได้ว่าเธอไม่รู้สึกว่าเขา

‘มีเสน่ห์’ อีกต่อไปแล้วแต่กลายเป็นสิ่งน่ารำคาญอย่ างหนึ่ง และนี่แหละจะนำไปสู่การเลิกรา

2 คุยเมื่อไหร่ ทะเลาะทุกที

เมื่ิอก่อนน่ะเหรอ….เธออย ากอยู่กับแฟน ‘ตลอดเวลา’ 24 ชั่ วโมงยังไงก็ไอเลิฟยูขอตามติดไปทั่วทุกที่ คุยกันได้ทุกเรื่อง

คุยจนหลับแล้วตื่นขึ้นมาคุยอีกก็ไม่เบื่อขอให้ได้ อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว! แต่ตอนนี้ ไม่มีอะไรจะคุยด้วยสักนิด

ไม่อย ากเล่ าอะไรให้ฟังทั้งนั้น แค่ขยับปากยังข ี้เกียจเลยพอเขาอย ากคุย เธอก็เริ่มหงุดหงิด ถ้าไม่ทำเงียบๆ

ก็หาเรื่องพูดให้เขาอารมณ์เสี ยในที่สุดก็ทะเลาะกันจนได้! ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ

แปลว่าเธอไม่อย ากมีเขาอยู่ในความสัมพันธ์แล้ว เตรียมรอวันเลิกได้เลย

3 เถียงกันจากเรื่องเล็กๆ จนบานปลาย

มันอาจจะเริ่มจากเรื่องเล็กๆ เช่น ‘วันนี้ใครจะล้างจาน’, ‘วันนี้ใครจะจ่ายค่าไอติม’แต่ไม่มีใครยอมอีกฝ่ายจนบานปลาย

ทะเลาะกันใหญ่โต ลามไปถึงลักษณะนิสัยพฤติก ร ร มไม่ดีที่ผ่ านมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว แล้วสรุปด้วยคำว่า

‘เป็นอย่ างนี้ไงถึงอย ากเลิก’บางคู่อาจเก็บอารมณ์ถ้าอยู่นอกสถานที่ แต่พออยู่ในบ้านเท่านั้นแหละใส่ไม่ยั้ง

ทั้งตะโกน กรีดร้อง เขวี้ยงปาข้าวของ ร้องไห้เสี ยงดังจนข้างบ้านคิดว่ามีการฆา ตก ร ร ม

ตอนนี้การทะเลาะห่างจากประเด็นหลักไปไกลแล้ว ถ้าอย ากให้จบเธอต้องเลือกระหว่าง

‘ขอโท ษ’ หรือ ‘ทำเงียบแล้วปล่อยไป’ แต่ถ้าอย ากเลิก ก็ทำตรงกันข้ามเท่านั้นเอง

4 ใช้เวลาห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ

จากที่เคยตัวติดกันเป็นตังเม ก็เริ่มมีปัญหาชีวิต / ภาระหน้าที่ / วิถีชีวิตไม่ตรงกันทำให้ใช้เวลาห่างกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ

อันที่จริงห่างกันบ้างเป็นเรื่องดีเพราะทำให้แต่ละฝ่ายได้ใช้ชีวิตของตัวเองเว้นระยะให้คิดถึงกันบ้าง

แต่ถ้าในใจของเธอกลับไม่อย ากเห็นอย ากคุยกับแฟนติดต่อกันนานๆ เป็นไปได้ว่าเธอสบายใจกว่า

ถ้าเขาไม่มายุ่งกับเธอค่ะวิธีสังเกตตัวเองง่ายๆ คือ ถ้าเธอรู้สึกว่าการนัดเจอ นัดเดทกับแฟนเป็น

‘หน้าที่’ ที่ต้องทำ ไม่ใช่สิ่งที่ทำตามความรู้สึกหรือหัวใจ แปลว่าเธอกำลังเบื่อและอาจ

ไปหาคนใหม่ที่ตื่นเต้นกว่าได้ทุกเมื่อ ถ้ายังไม่อย ากปล่อยมือแฟนก็ต้องจับเข่า

คุยกันแล้วล่ะว่า สาเหตุที่ทำให้เธอเบื่อคืออะไรแล้วแก้ไขมันซะ

5 อยู่ห่างแฟนแล้วรู้สึกสบายใจกว่า

เธอเริ่มมีความรู้สึกว่า เธอต้องใส่ ‘หน้ากาก’ ยิ้มแย้ม สดใสร่าเริงตลอดเวลาที่อยู่กับแฟนเพราะต้องคอยซ่อนความรู้สึกจริงๆ

เอ าไว้นั่นเอง เธอไม่อย ากทะเลาะมีเรื่อง หรือปิดบังความลับบางอย่ างไว้ อันที่จริงอยู่กับคนแปลกหน้าอาจสบายใจกว่าด้วยซ้ำ

จำไว้ว่า อย ากมีเวลาส่วนตัวกับเพื่อน กับ อย ากอยู่เป็นโสดนั้นต่างกันคนเราต้องมีระยะห่างบ้างเป็นเรื่องปกติ

แต่ในที่สุดก็กลับมาหาแฟน แต่ถ้าอย ากอยู่เป็นโสดคือเธอไม่มีเขาในหัวใจอีกแล้ว อย ากตัดขาดว่าอย่ างนั้นเถอะ

ถ้าเริ่มอึด อัดกับสภาพที่เป็นอยู่ แปลว่าเธอไม่อย ากใช้สถานะ ‘แฟน’ กับเขาแล้วล่ะค่ะ

6 คิดถึงแต่ด้านลบของแฟน เวลาที่ไม่ไ ด้ อยู่ด้วยกัน

แทนที่จะคิดถึง อย ากให้เขามาอยู่ด้วยตอนที่ห่างกัน เธอกลับคิดถึงมุมแย่ๆแง่ร้ า ย แง่ลบ สิ่งน่ารำคาญทุกเรื่อง

ที่แฟนหนุ่มทำ ถ้าเวลาเดียวที่เธอเลิกคิดเรื่องแย่ๆคือตอนเขาเ อาใจเธอ แปลว่าเธอเห็นค่าของแฟน

แค่ตอนที่เขาทำดีกับเธอแค่นั้นเองมีคำหนึ่งกล่ าวว่า ‘ถ้าเธออย ากรู้ว่าหัวใจตัวเองอยู่ที่ไหน

คนแรกที่เธอนึกถึงก็คนนั้นแหละ’และถ้าในห้วงคำนึงนั้นไม่มีแฟนหนุ่มของตัวเองอยู่เลย

ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ เธอไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ

7 เธอเอ าแต่คิดว่า “ถ้าฉันโสดจะเป็นยังไง”

“ถ้าฉันโสดจะเป็นยังไง ฉันจะเรียนได้เกรดดีมากขึ้นไหมทำงานแล้วได้เลื่อนขั้นสูงขึ้นหรือเปล่ า

หรืออาจจะมีเวลาทำงานอดิเรกที่ชอบมากขึ้นอืม…แล้วถ้าฉันเปลี่ยนแฟนล่ะ จะมีความสุขมากขึ้นหรือเปล่ านะ”

ถ้าเธอมีความคิดแบบนี้วนเวียนในสมอง จากนานๆ ทีกลับบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ

แปลว่าเธออย ากมีชีวิตใหม่ และแน่นอน ไม่มีแฟนของเธอรวมอยู่ในนั้นด้วยอีกต่อไปแล้ว

8 เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ หาข้อเสี ยของแฟนมากขึ้นเรื่อยๆ

เจอแฟนทีไรขอให้ได้บ่นว่า ขุดคุ้ย วิพากษ์วิจารณ์ข้อเสี ยต่างๆ นานา‘เธอน่าจะทำได้ดีกว่านี้’,

‘ทำไมหาเงินได้แค่นี้เองล่ะ’ อย ากให้เขาหล่อขึ้นมีชื่อเสี ยงมากขึ้น รวยขึ้น มีความคิดมากขึ้น

เพราะตอนนี้มองยังไงก็ไม่ได้ดั่งใจเธอสักอย่ าง มาตรฐานต่ำกว่าเกณฑ์สุดๆถ้าเธอเป็นแบบนี้

แปลว่าเธอไม่ได้มองเขาในฐานะ‘คนรัก’ แล้ว แต่มองในฐานะ ‘สินค้าที่ต้องปรับปรุง’

ผู้ชายที่โดนพูดกรอกหูว่าตัวเองต่ำต้อยซ้ำแล้วซ้ำเล่ า นานวันความอดทนก็จะหมดลง

เขาจะเริ่มไม่พอใจและหันมาวิจารณ์เธอบ้าง ในที่สุดก็ทะเลาะและเลิกราค่ะ

9 เธอกับแฟนไม่รู้สึกสนิทกันอีกต่อไปแล้ว

เมื่อแรกคบก็ตัวติดกันตลอด ปล่อยมือกันเกินสองนาทีไม่ได้ ต้องจับมือกันเดินไปนั่นนี่ตลอด

แต่ตอนนี้ อย่ ามาจับนะ ร้อน เปื้อนเหงื่อ! สำหรับคู่แต่งงานก็ละเลยเรื่องบนเตียงไปโดยปริย าย

เพราะรู้สึกกระดากและแปลกๆ ที่ต้องมาสัมผัสร่างกายกัน ก็แค่หอมแก้มกอดยังไม่อย ากทำเลยนี่นา

อาการแบบนี้อธิบายได้สั้นๆ ว่า “ไม่รู้สึกสนิทสนมด้วยแล้ว”ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรน่ารัก มุ้งมิ้งด้วยกันอีกต่อไป

แค่จะยื่นมือไปสัมผัสก็รังเกียจถ้าเธอกำลังเจอเหตุการณ์นี้รีบหาต้นตอและแก้ไขโดยด่วนก่อนจะสายเกินไปค่ะ

10 เริ่มคิดถึง ‘การเลิกรา’ ( หรืออาจวางแผนจะเลิกแล้ว )

‘ห่างกันสักพัก’ อาจช่วยให้ความสัมพันธ์ที่คลอนแคลนดีขึ้นเพราะได้เวลากลับไปคิดทบทวนสิ่งที่ผ่ านมา

และอาจกลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง แต่มันก็คือดาบสองคมถ้าไม่กลับมาคืนดีแล้วรักกันมากกว่าเดิม ก็เลิกกันไปเลย

ซึ่งคู่รักหลายคู่ก็ใช้เหตุผลนี้เป็นการบอกเลิกอย่ างเนียนๆ นั่นแหละค่ะลองสังเกตตัวเองว่า

เมื่อใช้สถานะ ‘ห่าง’ กับแฟนแล้วรู้สึกมีความสุข เป็นอิสระมากขึ้นไหม

ถ้าใช่ก็ส่อสัญญาณกลายๆ ว่าต่อไปต้องเลิกกันแน่นอน

11 ขุดความผิ ดของแฟนมาพูดซ้ำๆ ในการทะเลาะทุกครั้ง

นี่ถือเป็นนิสัยที่ไม่ดีเลย! เวลาทะเลาะต้องคอยขุดความผิ ดของแฟนมาพูดซ้ำซากบางอย่ างจบไป

ตั้งนานแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมลืม ขอให้ได้พูด ได้เถียงแล้วชนะเธอก็สะใจแล้วแต่ไม่สนใจความรู้สึก

ของฝ่ายตรงข้ามแม้แต่นิดเดียวเธออาจรู้สึก ดีแต่ฝ่ายตรงข้ามจะถูกย้ำเตือนเสมอว่า ไม่ว่าจะ

ขอโท ษในความผิ ดที่ทำสักแค่ไหนเธอก็ไม่เคยให้อภั ยเขาเลย แสดงถึงนิสัยยึดติดและ

อาฆา ตมาดร้ า ย แน่ล่ะไม่มีใครชอบผู้หญิงแบบนี้หรอก… จุดจบไปสู่การเลิกราก็ตามมาโดยไม่ต้องสงสัย

12 เธอให้อภั ยความผิ ดของแฟนไม่ได้

ต่อจากข้อข้างบน เธอไม่ยอมและไม่มีวันให้อภั ยความผิ ดของแฟนได้เลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม!

แค่เขาลืมล้างจาน ลืมซักผ้าเธอก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเหมือนเขาไปฆ่ าใครต า ยบางคู่ผู้ชายก็ทำความผิ ดร้ า ยแรงจริงๆ

เช่นบังคับเธอให้ออกจากงาน, ตะคอกใส่เธอเสี ยงดังด้วยคำพูดหย าบคาย,ทำให้เธออับอายต่อหน้าสาธารณชน

นึกขึ้นมาเมื่อไหร่ก็รับไม่ได้ทุกทีแล้วเธอจะแบกความทรงจำเหล่ านี้ไปตลอดชีวิตงั้นหรือจะมานั่งทบทวนแล้วหาทางออกร่วมกัน

หรือจะแยกทางใครทางมัน เธอเป็นคนตัดสินใจเองค่ะคู่รักที่กำลังอยู่ในสถานะ ‘ห่าง’ ต้องมีสัญญาณบ่งบอกเหมือนในบทความนี้บ้างไม่มากก็น้อย

เรามั่นใจ! เพราะแต่ละอาการเป็นความรู้สึกที่สื่อให้เห็นชัดเจนว่า‘เธอไม่รักเขาอีกต่อไปแล้ว’ โดยแสดงออกมาผ่ านพฤติก ร ร มต่างๆ

เช่น ไม่เห็นอยู่ในสายตา, มองเห็นแต่ข้อเสี ย, วิพากษ์วิจารณ์จนเขาเสี ยความรู้สึก,แค่เห็นหน้าก็หงุดหงิด เป็นต้น

ถ้าเธอเจอสัญญาณเหล่ านี้แล้ว มีทางเลือกสองทางคือกลับมาทบทวนความสัมพันธ์ หรือปล่อยให้หลุดมือไปเลย

ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าเธอแค่อิ่มตัวกับความรัก หรือเขา ‘ไม่ใช่’ อีกต่อไปแล้วลองคิดง่ายๆ ว่าถ้าเธอต้องอยู่อย่ างนี้ไปตลอดชีวิต

เธอจะทนทุ กข์ท รม านหรือเปล่ าถ้าใช่ก็รีบทางใครทางมัน หาคนใหม่มาทำให้ชีวิตสดใสดีกว่า

เพราะคนไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ค่ะ แต่ถ้าคิด อย่ างไรก็ยังรัก ก็รีบฟื้นฟูความสัมพันธ์

ให้กลับมามีความสุขไวๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ โชคดีค่ะทุกคน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา verrysmilejung

Load More Related Articles
Load More By weraphosri
Load More In ข้อคิด

Check Also

หยุดนิสัยแบบนี้ ก่อนที่จะสายเกินไปจนไม่มีเงินเก็บ

พนักงานธรรมดาอย่างเรา ทำงานแทบต าย ยังไงคนที่รวยคือ เจ้าของบริษัทแต่เราก็ต้องทน เพื่อรอรับ…