
การลาออกนั้น ถือเป็นเรื่องปกติของการทำงาน และเป็นสิทธิ
ที่พนักงานทุกคน สามารถตัดสินใจได้ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งเล็ก
หรือใหญ่เพียงใดก็ตาม แต่สิ่งที่เป็นปัญหา อาจจะมาจาก
เรื่องของเหตุผล ในการลาออก ที่บางครั้ง
ก็ดูสมเหตุสมผล แต่บางครั้งก็ไม่เป็นเหตุผล
ที่สมควรเอาเสียเลย แถมบางทียังไม่เกี่ยวข้อง
กับเรื่องการทำงานด้วยซ้ำ มาลองดูกันว่า
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้พนักงาน อย ากจะลาออก
มีอะไรกันบ้าง
1.มีปัญหาเรื่องคน
ปัญหายอดฮิต ติดอันดับต้นๆของสาเหตุ การลาออก
ก็คือเรื่องคนนี่ล่ะ ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ระหว่างเพื่อนร่วมงาน,
ความขัดแย้งกับเจ้านาย, การมีปากเสียงกับลูกน้อง,
หรือแม้กระทั่งทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ตลอดจนเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานเลย แม้แต่น้อย
แต่เมื่อมีความขุ่นข้องหมองใจกัน แน่นอนว่าย่อมมี
ผลกระทบต่อการทำงาน ไม่มากก็น้อย
หรืออาจจะทำให้ไม่อย ากทำงานที่นี่ต่อเลยเสียด้วยซ้ำ
ปัญหาเรื่องคนอีกกรณี อาจจะไม่ได้เกิดการกระทบกระทั่งกัน
โดยตรง แต่อาจจะเกิดจากการนินทาว่าร้า ย,โยนความผิด,
หรือมีพฤติก รรมที่บั่นทอนสุขภาพจิตคนอื่น
ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่อย ากร่วมงานได้เช่นกัน
2.มีปัญหาสุขภาพ
ปัญหาด้านสุขภาพ ถือเป็นอีกสาเหตุอันดับต้นๆ
ของการลาออก แล้วสาเหตุนี้ก็ดูจะสมเหตุสมผลที่สุด
โดยเฉพาะหากมีใบรับรองแพทย์ หรือคำสั่งแพทย์
อย่างเป็นทางการ ก็ไม่มีเหตุผลใด ที่บริษัทจะรั้งตัวไว้
หรือตำหนิพนักงานคนนั้น ปัญหาสุขภาพบางเรื่อง
ก็เป็นเรื่องของโ รคภัยไข้เจ็บ โร คประจำตัว
หรือแม้แต่อุบัติเหตุ ที่ไม่คาดฝัน แต่ปัญหา
สุขภาพบางอย่าง ก็มีสาเหตุมาจากการทำงาน
ตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ อย่างเช่น
โร คเครียด,ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ,ประสาทตาอักเสบ,หรือบางที
ก็อาจเกิดอุบัติเหตุขณะเวลาทำงานได้เหมือนกัน
3.งานเยอะจนเกินพอดี
ยุคนี้หลายบริษัท มักจะมีนโยบายการจ้างงาน
ด้วยอัตราเงิ นเดือนที่น้อย แต่ต้องจ้างให้คุ้มค่าที่สุด
ด้วยการให้ทำงานมากมายหลายอย่างพร้อมกัน
หรือรวมงานจากหลายๆตำแหน่ง มาไว้ในตำแหน่งเดียว
งานที่มากจนเกินพิกัด (Overload) นี้อาจเกิดตั้งแต่
ตอนตกลงจ้างงาน แต่พอทำจริงๆแล้ว ทำไม่ไหว
หรืออาจเพิ่มเติมภายหลัง ที่ไม่ได้มีการตกลงกันมาก่อน
แล้วทำให้ความรับผิดชอบเยอะ จนเกินไป
หากพนักงานทำไม่ได้ รับไม่ไหว หรือรู้สึกโดนเอาเปรียบ
จนเกินไปก็จะลาออกในที่สุด
4.ทำงานที่ไม่ชอบได้รับมอบหมายงานที่ไม่ถนัด
การได้ทำงานที่ชอบ และถนัด จะทำให้พนักงาน
มีความสุขกับการทำงาน และอยู่กับองค์กรได้นาน
แต่การทนทำงาน ที่ไม่ชอบ หรือได้รับมอบหมายงานที่ไม่ถนัด
ก็อาจทำให้เกิดความอึดอัด หรือทำให้ทำงานออกมาไม่ดีได้เหมือนกัน
บางครั้งสถานการณ์เหล่านี้ ไม่ใช่ความท้าทาย สำหรับบางคน
มันอาจกลายเป็นความไม่มั่นใจ และเป็นผลเสียเสียมากกว่า
และก็เป็นสาเหตุให้ลาออกได้ในที่สุด
5.อัตราจ้างต่ำเกินไปและต้องการปรับเงิ นเดือนขึ้น
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า เงิ นเดือนมีผล ต่อการทำงานของมนุษย์ออฟฟิศ
แทบทุกคน และเงิ นเดือนก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่ง
ที่บริษัทใช้จูงใจ ให้พนักงานร่วมงานอยู่ได้ เพราะในโลก
แห่งความเป็นจริงแล้ว เ งินกลายเป็นปัจจัยหลัก
ในการดำรงชีวิตในยุคปัจจุบันนี้ไปแล้ว และทุกคน
ก็ย่อมอย ากได้เงิ นเดือนที่สูงไม่ต่างกัน ในระบบบริษัท
อัตราเงิ นเดือน อาจหมายถึงความก้าวหน้า ในหน้าที่การงาน,
ความรับผิดชอบ,หรือแม้แต่เรื่องของโบนัส ที่มักแปรผัน
ตรงกับศักยภาพ และความสามารถจึงไม่ผิดเลย ที่ว่ามนุษย์เงือนเดือนทุกคน
จะอย ากได้เงิ นเพิ่ม อันเนื่องมาจากเหตุผลด้านอื่นๆ
ด้วยพนักงานหลายคน ย้ายบริษัทบ่อยมาก แต่นั่นไม่ใช่
เพราะเขาทำงานแย่ ตรงกันข้าม
เขาทำงานเก่ง จนได้รับข้อเสนอในเรื่องอัตราจ้างที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
จากบริษัทต่างๆ ที่ต้องการซื้อตัว และนั่นก็เป็นกลยุทธ์หนึ่ง
ที่พนักงานในยุคนี้ ใช้การย้ายงาน เพื่อเพิ่มฐานเ งินเดือนของตัวเอง
ให้สูงขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เกิด Job Hopper มากขึ้นเรื่อยๆ
เป็นทั้งข้อดี และข้อเสียของโลกธุรกิจไปพร้อมๆกัน
6.สวัสดิการไม่ดีพอ
องค์กรที่ดี มักจะดูแลใส่ใจ เรื่องสวัสดิการของพนักงานได้ดี
ตามไปด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้พนักงาน
อยู่ในองค์กรได้ยืนย าว โดยเฉพาะสวัสดิการ
เรื่องสุขภาพ และการรักษาพย าบาลที่พนักงานหลายคน
เลือกทำงานกับองค์กร ที่ดูแลเรื่องนี้อย่างดี
หรือแม้แต่สวัสดิการย่อยๆ อย่างค่าเดินทาง,ค่าล่วงเวลา,
หรือแม้แต่วันหยุด หากองค์กรให้อย่างไม่คุ้มค่า
เอาเปรียบพนักงาน ก็ย่อมทำให้พนักงาน
อย ากลาออกไปยังบริษัท ที่ให้สวัสดิการที่ดี
และคุ้มค่ากว่า
7.ปัญหาโครงสร้างบริษัท
ไม่ใช่แค่เรื่องของคนเท่านั้น แต่ตัวองค์กรเอง
ก็มีผลต่อการลาออกได้ เหมือนกันบางบริษัท
มีโครงสร้างงานที่ใหญ่มาก มีตำแหน่งที่เยอะมาก
มีทิศทางความก้าวหน้า ในอาชีพการงานที่ชัดเจน
ก็อาจเป็นแรงจูงใจที่ดี ที่ทำให้พนักงาน อย ากทำงานในองค์กรนี้
ไประยะย าว แต่ในทางตรงกันข้าม บริษัทที่ไม่ได้มีการวางแผน
ผังงานที่ชัดเจน ไม่มีแนวทาง Career Path
ของแต่ละตำแหน่ง ที่เห็นได้ชัด หรือเป็นบริษัทขนาดเล็ก
ที่เห็นได้ชัดว่า ไม่มี Career Path แน่นอน
ก็อาจทำให้พนักงาน ไม่เห็นอนาคต ความก้าวหน้าของตัวเอง
ไม่ตอบโจทย์ ความสำเร็จในชีวิต ซึ่งก็อาจทำให้พนักงาน
ลาออกไปหาองค์กร ที่มั่นคงกว่ามีแนวโน้ม ก้าวหน้ากว่าก็เป็นได้
8.เจ้านายบริหารงานไม่เก่ง
ถึงแม้ว่าพนักงานคนนั้น จะได้ทำงานที่ชอบ
ตำแหน่งที่ใช่ ตัวงานท้าทาย เข้าทางไปเสียทุกเรื่อง
แต่อาจกลับตกม้าตา ย ด้วยเรื่องง่ายๆ ที่ดูจะเป็นเรื่องตลกร้า ย
ก็คือการได้เจ้านาย ที่ไม่เอาไหน บริหารงานไม่เก่ง
ยิ่งถ้ามีการประเมินผลงานเป็นทีม เป็นแผนก
ทำดีแทบต ายอาจได้ผลงานรวมที่แย่
เพราะเจ้านายห่วย ก็อาจทำให้พนักงานคนนั้นรู้สึกแย่
และไม่ได้รับความยุติธรรมก็เป็นได้ และยิ่งถ้าบริษัท
ไม่สามารถเห็นปัญหาในจุดนี้ได้ พนักงานที่มีความสามารถส่วนใหญ่
ก็มักตัดสินใจ ย้ายไปทำงานใหม่ทันที
9.องค์กรไม่ได้ใช้ความสามารถของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ
คนที่ชอบทำงาน ทำงานดี ทำงานก่ง และทุ่มเท
ในการทำงาน ไม่ว่าจะอยู่องค์กรใดก็ตาม
พวกเขา ย่อมคาดหวัง ว่าจะได้ทำงานที่ตนเองเลือก
อย่างเต็มความสามารถ เพื่อเป็นการพัฒนาตัวเองตลอด
จนสร้างก้าวหน้า ในอาชีพด้วย หากพนักงาน
ไม่ได้ใช้ความสามารถ อย่างเต็มที่ อย่างที่คาดหวังไว้
อาจจะทำให้เบื่อหน่ายหรือรู้สึกว่า ไม่ได้พัฒนาตัวเอง
พนักงานในกลุ่มนี้ก็มักจะไม่ทนอยู่ และมักจะหาองค์กรใหม่ที่มี
งานที่ท้าทายและสนุกกว่า
10.องค์กรไม่เห็นศักยภาพและไม่ส่งเสริมพนักงานให้ก้าวหน้า
บ่อยครั้ง ที่องค์กรได้พนักงานเก่งๆ มาอยู่ในมือ หรือพนักงาน
พัฒนาตัวเอง จนมีศักยภาพขึ้นมา แต่บริษัทไม่เห็นตรงส่วนนี้
หรือเห็นแล้วเพิกเฉย ละเลย ไม่สนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้า
พนักงานก็อาจไม่อย ากร่วมงาน กับองค์กรเช่นกัน
กรณีนี้อาจเกิด จากการไม่มอบหมายงาน ที่ท้าทายให้
ไม่ไว้ใจให้ทำงานที่อย ากทำ ไม่เลื่อนตำแหน่ง ไม่ปรับขึ้นเ งินเดือน
หรือแม้แต่ไม่พิจาณาโบนัส ให้ตามความเหมาะสม
สาเหตุเหล่านี้ก็อาจทำให้พนักงาน อย ากเปลี่ยนองค์กรที่เห็น
ศักยภาพของตนมากกว่าเช่นกัน
11.ชีวิตเสียสมดุล
บางคนให้ความสำคัญ กับเรื่อง Work-LifeBalance มากๆ
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่รักในการสร้างสมดุลชีวิตให้พอดี
ไม่ทำงานหนัก จนทำให้สุขภาพแย่ ไม่บ้างาน จนทำให้ชีวิตพัง
ไม่ขี้เกียจทำงาน จนทำให้เลี้ยงชีพไม่รอด ไม่ทำงานที่ทำให้ชีวิตมีความทุกข์
หรือไม่รับงานที่ทำให้วิถีชีวิตของตัวเอง เปลี่ยนแปลง
ไปในทางที่แย่ลง อย่างเช่น งานที่ต้องเดินทาง
ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว,งานที่ต้องทำ
ในเวลากลางคืน ขัดกับวิถีชีวิตปกติทั่วไป,งานที่ทำ
ให้ไม่มีเวลาพักผ่อน หรือออกกำลังกาย,งานที่ต้องทำวันเสาร์-อาทิตย์
เพิ่มเติม, หรือแม้แต่ออฟฟิศ ที่อยู่ไกล จนทำให้มีปัญหา เรื่องการเดินทาง
หากพนักงานสร้างสมดุล ให้กับชีวิตตัวเอง ไม่ได้วิถีชีวิตทุกอย่าง
จะกระทบไปหมด และนั่นก็เป็นสาเหตุ ให้ต้องยื่นใบลาออกได้เหมือนกัน
12.ย้ายถิ่นฐาน
อีกเหตุผลสำคัญหนึ่งของการลาออก ก็คือการย้ายถิ่นฐานของพนักงาน
ตั้งแต่ย้ายบ้าน ไปอยู่อีกเขต ที่ทำให้เดินทางลำบากขึ้น
ครอบครัวต้องย้าย ไปอยู่ต่างจังหวัด หรือแม้แต่ต้องย้าย
ไปทำงานต่างประเทศ ก็เป็นเหตุสำคัญ ที่อาจไม่เกี่ยว
กับเรื่องงานโดยตรง แต่ทำให้พนักงานตัดสินใจลาออกได้
13.กลับไปช่วยธุรกิจของครอบครัว
เปิดกิจการเป็นของตัวเอง อีกเหตุผลคลาสสิกทุกยุคทุกสมัย
ก็คือการถูกเรียกให้กลับไปช่วย บริหารงานธุรกิจของครอบครัว
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มักเป็นเหตุผลส่วนตัว และอาจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับใครบางคน หรือบางคนต้องการลาออก ก็เพื่อที่จะไปทำธุรกิจส่วนตัว
เริ่มต้นกิจการของตัวเอง โดยเฉพาะหลังช่วงได้รับเ งินก้อน
จากโบนัสพนักงาน อาจอย ากเริ่มต้นธุรกิจใหม่ของตน
หรือใช้ประสบการณ์จากการทำงาน ไปต่อยอดธุรกิจ
ที่ตนเห็นลู่ทางประสบความสำเร็จ
14.เบื่อหน่ายอิ่มตัวงานไม่ท้าทายอีกต่อไป
หากพนักงาน รู้สึกเบื่อหน่าย สิ้นหวังในการทำงาน
ประเภทที่ว่า ตื่นลืมตามาทุกเช้าแล้ว รู้สึกว่าไม่มีอะไร
น่าสนใจไม่อย ากไปทำงาน เบื่อออฟฟิศ เบื่อความจำเจ
เบื่อพฤติก รรมซ้ำเดิม ก็เป็นเหตุให้อย ากลาออกได้
หรือบางทีก็เป็นเหตุผลง่ายๆ สุดแสนจะคลาสสิก
แต่ทว่าดูเกือบจะไร้เหตุผลอย่าง“ถึงจุดอิ่มตัว”
ซึ่งพนักงานบางคน อาจทำงานนั้น มานานจนเกิดความเบื่อหน่าย
การลองเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ไปสู่สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ
หรือแม้แต่การเปลี่ยนสายงานใหม่ไปเลย
ก็อาจเป็นทางออกที่ดี ในกรณีนี้เช่นกัน
15.เหตุผลที่ไร้เหตุผล
สุดท้ายแล้วบางเหตุผล ของการลาออก
ก็เป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลสิ้นดี อย่างเช่นอกหัก
กับคนในออฟฟิศ,ย้ายตามคนรักไป อีกบริษัท,หนีหนี้,
หรือแม้แต่อย ากออกเดินทางท่องโลก
เพื่อหาประสบการณ์ใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้ บางทีก็ดูไร้เหตุผล
แต่บางทีก็ดูเป็นเหตุผลสำคัญ และแฝงไปด้วยความตั้งใจ
อันแรงกล้า อยู่ฝ่ายบุคคลอาจต้องมองเหตุผล และให้ดีว่า
การตัดสินใจลาออกของพนักงานคนนั้น เป็นเรื่องที่ควร
หรือไม่ควร เพื่อจะได้เลือกจบกันอย่างสวยงาม หรือว่าลาจากกัน
ด้วยความโกรธเคือง จนมองหน้าไม่ติด
ขอขอบคุณ hrnote.asia