Home ข้อคิด 5 วิธีออมเงินอย่างไร ให้เห็นเงินเก็บ

5 วิธีออมเงินอย่างไร ให้เห็นเงินเก็บ

เงินใช้ก็ไม่พอ เงินออมก็ไม่มี ใครเป็นแบบนี้บ้างเอ่ย?! เชื่อว่าหลายๆ คนคงกำลังมีปัญหาเก็บเงินไม่อยู่กันใช่ไหมล่ะคะ

ใครที่เงินเดือนออกทีไร แปปๆ ก็หมด แถมเงินเก็บก็ไม่มี ตามเรามาทางนี้เลยค่า เพราะวันนี้เรามี 5 วิธีออมเงินให้อยู่

เงินเก็บเหลือเพียบมาฝากกันค่า เป็นวิธีที่ทำง่ายๆ ที่ถ้าทำทุกวัน รับรองรวยแน่นอน

1. เปิดบัญชีสำหรับ เงินออม เ งิ น ฉุ ก เ ฉิ น และเงินใช้จ่ายประจำเดือน

บัญชีเงินออม บัญชี เ งิ น ฉุ ก เ ฉิ น และบัญชีเงินใช้จ่ายประจำเดือน เป็น 3 บัญชีหลักๆ ที่สาวๆ ควรมีค่ะ ขั้นแรกเปิดบัญชี

ทั้งสามนี้ไว้จะเป็นธนาคารเดียวกันก็ได้ หรือถ้าให้ดีเป็นคนละธนาคารไปเลยค่ะ จะได้ไม่งงและเมื่อเงินเดือนออก จ่ายค่าบัตรเครดิต

ค่าใช้จ่ายต่างๆ เรียบร้อยแล้ว หักเงิน 3 ส่วน เข้า 3 บัญชีนี้ไว้โดย บัญชีเงินออม จะเป็นบัญชีสำหรับการฝากเงินเพื่ออนาคตค่ะ

แนะนำว่าให้เก็บ 10% ของเงินเดือนที่เหลือหลังหักค่าใช้จ่าย ซึ่ง 10% ถือว่าไม่มากไม่น้อยไป เหมาะสำหรับคนที่มีเงินเดือนน้อยไปถึงมากค่ะ

บัญชีเงิน ฉุ ก เ ฉิ น จำไว้ว่าบัญชีนี้เป็นบัญชีเพื่อกรณี ฉุ ก เ ฉิ น ตามชื่อเท่านั้นค่ะ จะ ช้ อ ป ปิ้ ง ดูหนัง กินข้าว อย่าได้หยิบบัตรบัญชีนี้ไปรูดเด็ดขาด

บัญชีนี้มีไว้ใน ย า ม ฉุ ก เ ฉิ น ไม่ว่าจะเกิดเหตุ ป่ ว ย ไ ข้ ต้องใช้เงิน ฉุ ก เ ฉิ น หรือมีปัญหาทางบ้าน และจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ เท่านั้นค่ะ

แนะนำว่าให้หัก 5-10% ของเงินเดือนหลังหักค่าใช้จ่าย หรือแล้วแต่ความเหมาะสมค่ะ ถ้าไม่ได้ใช้ก็ถือว่าเป็นเงินออมได้อีกบัญชีหนึ่งด้วย

บัญชีเงินใช้จ่ายประจำเดือน สำหรับบัญชีนี้ไว้สำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการจ่ายหนี้สินทั้งหมดแล้วค่ะ เช่น ค่าเดินทางไปทำงาน

ค่าน้ำมันและค่า อ า ห า ร สำหรับมื้อพิเศษ (ที่มันต้องมีแน่ๆ ทุกเดือนล่ะ) ในส่วนนี้ก็ลองคำนวณดูค่ะว่า ใน 1 เดือนเราต้องจ่ายค่าน้ำมัน

ประมาณเท่าไหร่ ค่ารถเท่าไหร่ ก็หักเก็บไว้ จะได้ไม่ขัดสนเวลาต้องหยิบมาจ่าย

2. เก็บแบงก์ 50 ไว้ อย่าใช้

แบงก์ 50 นับว่าเป็นแบงก์ที่ง่ายต่อการเก็บออมที่สุดเลยค่ะ ไม่มากไปแล้วก็ไม่รู้สึกว่าน้อยไป แถมเก็บขึ้นมานานๆ ยังได้เงินเป็นกอบเป็นกำ

ขึ้นมากกว่าที่เราคิดอีกด้วยเวลาที่ได้เงินทอนเป็นแบงก์ 50 ก็ พ ย า ย า ม เก็บแยกไว้อีกช่องหนึ่งในกระเป๋าค่ะ จะได้ไม่เผลอหยิบมาใช้

ถ้าเริ่มเยอะเมื่อไหร่ก็แยกไปเก็บในกล่อง หรือนำไปเข้าบัญชีไว้ค่ะบอกเลยว่า นอกจากจะมีเงินออมง่ายๆ แล้ว แบงก์ 50

ยังเป็นตัวช่วย ฉุ ก เ ฉิ น ที่ดี ใน ย า ม ที่ต้องใช้เงินอีกด้วยล่ะค่า

3. เก็บเศษเงินที่เหลือทุกวันใส่กระปุก

แม้จะเป็นวิธีที่เบสิกที่สุด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ค่ะ ว่าการเก็บเหรียญเป็นวิธีออมเงินที่ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แนะนำให้

หากระปุกออมสินหรือกล่องมาตั้งไว้ให้ใกล้ตัวเสมอค่ะ จะบนหัวเตียง โต๊ะทำงาน หรือแม้กระทั่งโต๊ะในที่ทำงาน ถ้าอยู่ที่ทำงาน

ซื้ อ ของแล้วได้เงินทอนก็รีบหยอดเก็บไว้ค่ะ หรือไม่ถ้ากลับถึงบ้านเมื่อไหร่รีบหยิบเหรียญในกระเป๋ามาหยอดด่วน จะได้ไม่ลืมเก็บ

หรือเผลอใช้ในวันถัดไปจ้า แต่อย่าลืมทำกล่องให้มิดชิดเพื่อกันเงินหายด้วยนะจ๊ะ

4. พกเงินให้น้อยลง

เงินเดือนออก ก็ใช่ว่าต้องใช้ให้หมดซะเมื่อไหร่ล่ะคะ กดออกมาพกเป็นรายอาทิตย์ เท่าที่ต้องใช้ในแต่ละวันก็พอค่ะ เช่น 7 วัน

วันธรรมดาใช้วันละ 200 (ค่า อ า ห า ร 3 มื้อ มื้อละ 40-50 และค่ากาแฟหรือขนมอื่นๆ อีก 50)วันหยุดใช้วันละ 100

ก็กดออกมาพกไว้ 1000-1200 ก็พอค่ะ สุดท้ายบังคับตัวเองให้ทำได้ตามที่ตั้งใจไว้ รับรองเงินออมเหลือเพียบ

5. สร้างแรงบันดาลใจในการเก็บเงินให้เป็นชิ้นเป็นอัน

สำหรับบางคนถ้าไม่มีแรงบันดาลใจมาผลักดันให้เก็บเงิน ก็ ย า ก ที่จะเก็บอยู่ค่ะ แต่ถ้ามัวแต่พูดลอยๆ ว่าจะเก็บเงินไปทำอย่างนั้น

ไปทำอย่างนี้แต่ยังไม่ลงมือเก็บสักที อีกนานค่ะกว่าจะได้ทำ ฉะนั้น อ ย า ก ทำอะไร หยิบกระดาษและปากกามาเขียนติดไว้เลย เช่น

สิ้นเดือนนี้ต้องไปเที่ยวที่เชียงใหม่ให้ได้!เขียนใส่กระดาษตัวโตๆ และติดไว้ที่กระปุกเลยค่ะว่า เงินเที่ยวเชียงใหม่ จากนั้น พ ย า ย า ม

หยอดเงินลงไปทุกวัน โดยตั้งเป้าว่าต้องใส่วันละ 50 หรือจะใส่แบงก์ 20 50 หรือเศษเหรียญเท่าไหร่ก็ได้แต่ขอให้ใส่

สิ้นเดือนถ้าได้เงินเกินงบที่ไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็มีเงินออมอีกทาง หรือถ้าไม่ครบ อย่างน้อยเราก็เสียเงินไปเที่ยวน้อยลงแน่นอนล่ะ

Load More Related Articles
Load More By weraphosri
Load More In ข้อคิด

Check Also

หยุดนิสัยแบบนี้ ก่อนที่จะสายเกินไปจนไม่มีเงินเก็บ

พนักงานธรรมดาอย่างเรา ทำงานแทบต าย ยังไงคนที่รวยคือ เจ้าของบริษัทแต่เราก็ต้องทน เพื่อรอรับ…