ปัญหาของการเก็บเงินไม่อยู่ มีเท่าไหร่ก็ใช้หมด เชื่อได้เลยว่าเป็นปัญหาใหญ่ของคนจำนวนมาก ยิ่งมนุษย์เงินเดือนหลายๆ คน
ประสบปัญหาใช้เงินแบบเดือนชนเดือน บางทียังไม่ทันจะสิ้นเดือน เงินเดือนที่ได้มาเดือนก่อนก็หมดซะแล้ว เป็นปัญหากลุ้มใจ
หนักเข้าอีกเอาเงินอนาคตมาใช้ เปิดบัตรเครดิต เป็นหนี้บัตรเครดิต ด อ ก เบี้ยสูงลิ่วไปอีก โอ๊ยแค่คิดก็กุมขมับแล้ว ….
วันนี้เรามาเรียนรู้เคล็ด(ไม่)ลับดีๆ ของการออมเงินกันดีกว่า
1. เก็บก่อนใช้ทีหลัง
หลายคนอาจมีความคิดว่า ได้เงินมานำไปใช้จ่ายก่อนเหลือเท่าไหร่ก็เก็บออมทีหลัง แต่ความคิดนี้กลับสร้างอุปสรรคให้ใครหลายๆ
คนในการเก็บเงิน เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะความคิดแบบนี้ ไม่ได้ช่วยในการวางแผนเก็บออมเงินน่ะสิ่ ลองเปลี่ยนความคิดกลับมาเป็น
“เก็บเงินก่อน ใช้ทีหลัง” ดู เมื่อได้รับเงินเดือนหรือรายได้มา ลองตั้งเป้าในการเก็บออมเงินไว้ส่วนหนึ่งก่อน อาจจะ 10% หรือน้อยกว่า
หรือมากกว่า ก็ไม่ผิด ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิต ภาระหน้าที่ที่มีของแต่ละคน จะออมมากหรือน้อย ก็อยู่ที่ตัวเราวางแผน ออมมากก็มีเงิน
เก็บมาก ออมน้อยก็มีเงินน้อยนั่นเอง ซึ่งการกันเงินไว้เพื่อออมก่อน ทำให้เรามั่นใจได้ว่า การใช้จ่ายของเราจะสามารถ
ควบคุมได้ในระดับหนึ่ง มีเงินออมไว้สำหรับทุกๆ เดือนแน่นอน!!
2. รู้จักแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ
สาเหตุที่อาจจะทำให้คุณเก็บเงินไม่อยู่สักที อาจจะเป็นเพราะไม่รู้ว่าค่าใช้จ่ายหมดไปกับอะไรบ้างน่ะสิ่ ลองวางแผน แบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ
อาจจะแบ่งง่ายๆ เป็น ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นกับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อที่จะได้สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายได้อย่างถูกต้อง ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอย่าง
ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ฯลฯ เท่ากับเดือนละเท่าไหร่ และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอย่างค่าท่องเที่ยว ค่าซื้อของใช้ฟุ่มเฟื่อย ต่างๆ คุณใช้จ่ายไป
เดือนละเท่าไหร่ แล้วมีเงินเหลือเก็บบ้างมั้ย? ถ้าไม่มี ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น สามารถวางแผน และลดค่าใช้จ่ายนี้ลงได้มั้ยเพื่อที่จะให้คุณมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นในทุกๆ เดือน เป็นต้น
3. เปลี่ยนนิสัยการเดินทาง ใช้รถสาธารณะ
ยิ่งถ้าคุณอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ล่ะก็ ลองเปลี่ยนจากการใช้รถยนต์ส่วนตัว มาใช้บริการรถสาธารณะในการเดินทางกันดูบ้างประหยัดกว่า
ขับรถส่วนตัวไปได้เยอะทีเดียว หรือถ้าใครมีครอบครัว หรือมีเพื่อนๆ ที่พอจะติดรถไปทำงานกันได้ ก็ลองตกลงและ แ ช ร์ ค่าเดินทาง
หรือสลับกันรับส่งดู ข้อดีที่ได้มากกว่าการประหยัดคือ มีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยนั่นเอง
4. มีสติทุกครั้งที่ใช้จ่าย
เดี๊ยวนี้ไม่ว่าจะเดือนไหนๆ เทศกาลพิเศษอะไรก็แล้วแต่ สินค้าลดราคา โปรโมชั่นลดมากกว่า 50% มีมาให้กระเป๋าสั่นกันทุกเดือน
บางเดือนมีทุกอาทิตย์!! หากคุณเป็นคนจิตใจอ่อนไหวกับป้าย SALES ล่ะก็ ให้นึกถึงว่าเงินทุกบาทที่กว่าจะหามาได้ ต้องแลกกับอะไรมาบ้าง
และอย่างที่บอกเดี๊ยวนี้โปรโมชั่นล่อตาล่อใจมีให้เห็นกันแทบจะทุกวันอยู่แล้ว ถ้ามั่วแต่ไปหลงกลสินค้าลดราคา คิดว่า “นานๆ ที”
บอกได้เลยว่าเก็บเงินยังไงก็ไม่อยู่ คุณต้องมีสติทุกครั้งที่ใช้จ่าย ซื้อของเมื่อจำเป็นเท่านั้น อย่าลืมว่าการให้รางวัลตัวเองบ้าง
ย่อมไม่ผิด แต่ให้ทุกวัน ระวังจะปาดน้ำตาทีหลังนะ
5. มีรายได้เพิ่ม ก็เก็บเงินเพิ่มสิ่
รายได้ที่มีมากขึ้น ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณใช้จ่ายได้มากขึ้น อย่าลืมออมเงินในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นมาด้วยล่ะ อย่าคิดแต่จะใช้เงินยังไงดี
ให้คุ้มค่ากับรายได้ที่เพิ่มขึ้นมา เชื่อสิ่ ท่องไว้เลยว่า “อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า” “ลำบากวันนี้ สบายวันหน้า” ยิ่งออมเยอะ
คุณก็จะพบกับอิสรภาพทางการเงินที่เร็วขึ้นอีก คุ้มค่าแน่นอน
6. นำเงินไปลงทุน
สุดท้ายนี้ เครื่องมือที่จะช่วยเร่งให้การออมเงินของคุณประสบความสำเร็จเร็วๆ ก็คือการนำเงินออมไป “ลงทุน” ใครที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ
ก็นำเงินไปลงทุนในเครื่องมือที่มีความเสี่ยงต่ำอย่าง กองทุนรวม ฉลากออมสิน ฉลาก ธ.ก.ส. ประกันบำนาญ เป็นต้น หรือถ้าใครที่รับ
ความเสี่ยงได้มากหน่อยก็อาจศึกษาวิธีการลงทุนในหุ้น เป็นต้น ซึ่งนอกจะจะสามารถช่วยสร้างรายได้จากการลงทุนให้อีกทางหนึ่งได้แล้ว
การนำเงินไปลงทุนยังช่วยเป็นการผูกมัดเงินออมก้อนนั้น ไม่ให้คุณมาแอบหยิบไปใช้ได้ง่ายๆ แล้วก็กลับมาปัญหาเดิมคือเก็บเงินไม่อยู่อีกนั่นเอง
รู้เคล็ดลับการเก็บเงินไม่ให้รั่วไหลกันแล้ว อย่าลืมเอาไปใช้กันนะ!!
ขอบคุณ moneywecan
