
1.ดูรายรับของเราแต่ละเดือน
ดูก่อนเลยครับ เงิ นเดือนเราแต่ละเดือน เป็นเท่าไหร่
ให้เราคำนวนว่า 1 ปี เรามีเงิ นรายได้ทั้งหมดเท่าไหร่
จะได้ดูเป็นเงิ นก้อนมีกำลังใจ ว่าเราก็สามารถทำเ งินในแต่ละปีได้
ไม่น้อยทีเดียวเช่นเงิ นเดือน 15,000 บาท เท่ากับว่า 1 ปี เรามีรายได้ทั้งหมด
180,000 บาทเลยทีเดียว
2.ประมาณการและติดตามรายรับพิเศษตลอดทั้งปี
คราวนี้มาดูรายได้พิเศษ ที่อาจจะเกิดขึ้น
เช่น ค่าคอมมิชชั่นค่าโบนัส หรือรายได้พิเศษอื่นๆ
ลองบันทึกเป็นตัวเลขไว้ครับ แยกออกจากรายได้ประจำนะครับ
เงิ นส่วนนี้อย่างน้อยมันก็สะสม นำมาเป็นเงิ นทุนได้
หากเราไม่ใช้จ่ายเลือกที่จะเก็บออม
3.บันทึกค่าใช้จ่ายประจำวัน
เมื่อรู้รายได้แล้วสิ่งสำคัญ ก็คือรายจ่าย บันทึกค่าใช้จ่ายประจำวัน
ครับค่าอาหาร,ค่าเช่าที่พัก,ค่าเดินทาง,ค่ารถ, ค่าบัตรเครดิต,ค่าน้ำ,ค่าไฟ,
ของใช้,ภาษีฯบันทึกมันลงมาครับว่า ในแต่ละวันแต่ละเดือนเป็นเท่าไหร่
4.บันทึกค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงประจำวัน
ยังมีค่าใช้จ่ายอีกอย่าง ที่ต้องบันทึก ผมเรียกมันว่าค่าใช้จ่าย
เพื่อความบันเทิงเพื่อเข้าสังคมบ้างหละ เช่น งานเลี้ยง,ค่าของขวัญ,
ค่าซองงานแต่งงานบวช,ดูหนัง,ฟังเพลง,เลี้ยงสาว,ลุ้นหวยฯ
เหล่านี้เป็นค่าใช้จ่าย เพื่อความบันเทิงทั้งนั้น ครับต้องบันทึกและ
ประมาณการไว้ด้วยครับ
5.รวมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและเพื่อความบันเทิง
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือนและปี ประมาณการแล้วเท่าไหร่
คราวนี้เราก็จะได้รู้ว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งปี ที่เกิดขึ้น
มันจะเป็นเท่าไหร่ ที่เหลือก็แค่บริหารจัดการ
6.คัดค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงออก
ได้เวลาตัดค่าใช้จ่าย เพื่อความบันเทิงออกครับ เป็นการตัดทิ้ง“เนื้อร้า ย”
ทางรายจ่ายครับ อะไรตัดได้ตัด ค่าเห ล้า,ค่าเบี ยร์,บุ หรี่,หวยฯส่วนนี้ตัด
ออกก่อนเลยครับ แล้วดูสิว่าหากตัดส่วนนี้ ไปรายจ่ายเราลดลงไปเท่าไหร่
นั่นเท่ากับว่าเรามีเ งินเหลือเป็นทุนได้เท่านั้น
7.ลดค่าใช้จ่ายประจำวัน
รายจ่ายในแต่ละวัน มันจำเป็นตัดไม่ได้ แต่สามารถลดได้ครับเคยทาน
ข้าวห้องแอร์ นั่งห้างมาทานห้องแถวข้างออฟฟิตได้ไหม,น้ำไฟใช้ให้
ประหยัดลงได้หมดอะไร ไม่ใช้ก็ปิดสิ่งเหล่านี้ เราสามารถลดได้ครับ
ถ้าตั้งใจที่จะลดมันครับ
8.กำหนดเป้าหมายในการเก็บเ งิน
เรารู้หมดแล้วว่า “รายได้”ทั้งเปีนเท่าไหร่ “รายจ่ายทั้งหมด”เป็นเท่าไหร่
จะตัดจะลดอะไร ก็รู้หมดคราวนี้ ก็กำหนดเป้าหมายเลยครับว่าจะเก็บจะ
ออมเงิ นเท่าไหร่ เดือนละกี่บาท บางคนบอกเก็บเดือนละ 1,000
เท่ากับ 1 ปี ก็มีเงิ นเก็บ 12,000 ได้เงิ นโบนัสอีก 1 เดือนก็รวมเป็น
27,000 บาท มีเงิ น 27,000 นี่พอเริ่มธุรกิจเล็กๆได้แล้วนะครับ
ไม่ว่าจะเป็นการขา ยลูกชิ้นทอด,เสื้อผ้าเด็กฯลงทุนไปทีละนิด
เดี๋ยวมันก็มีเ งินทบต้นดอ กเบี้ย กำไรไปต่อฝันใหญ่ได้เองครับ
9.ตรวจสอบเป้าหมายการออมและเงิ นที่ออมได้ในแต่ละเดือน
เป้าหมายที่วางไว้นั้นเรา“ซื่อสัตย์”กับเป้าหมายมากน้อยแค่ไหน
หลายคนมาตกม้าตา ย เอาตอนนี้หละครับ เราขาดความ“อดทน”
ไม่“จริงใจ”กับตัวเอง ทำให้เราไม่สามารถ เก็บออมเ งินเพื่อมา
เป็นทุนได้พย าย ามครับ ตั้งใจที่จะทำจริงๆ เก็บเงิ นให้ได้ออมให้
อยู่ลดละเลิกค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดประโยชน์
สำหรับ 9 ขั้นตอนพื้นฐาน เพื่อการเก็บเ งินก้อนแรกมาเปิดธุรกิจ
อาจจะดูว่ามัน“ช้า”เป็นปีสองปีเลย หรือกว่าจะได้เ งินสักก้อน
สำหรับมุมมองผมมันไม่ช้าหรอก ครับสิ่งที่ช้ากว่าก็คือการที่เรา
“ไม่เริ่ม”ที่จะหาวิธีการเพื่อให้ได้เงิ นทุนมากครับ
“ไม่คิด”ที่จะ“เก็บออม”ไม่ประหยัดและก็ยัง“นั่งบ่น”ว่าไม่มี
เงิ นทุนเลยไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
บางคนอย าก“รวยทางลัด”หวังหาเงิ นได้เร็ว ถ้าทำได้จริงผมก็
ขออนุโมทนาด้วยนะครับ แต่สิ่งที่ผมเตือน สำหรับคนที่อย ากรวยเร็วคือ
“คุณอาจจนเร็วยิ่งกว่า”นะครับ ได้เวลาที่จะมาสำรวจรายได้รายจ่าย
เก็บออมเงิ นเพื่อประเดิมธุรกิจแรกกันแล้วครับ